เช็กอาการ “บ้านทรุด” แบบง่าย ๆ ก่อนให้ช่างเข้าหน้างาน

ปัญหา บ้านทรุด–พื้นทรุด เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้กับบ้านทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นบ้านสร้างใหม่ บ้านอายุหลายปี อาคารพาณิชย์ หรือโกดังโรงงาน โดยส่วนใหญ่เกิดจากสภาพดินที่อ่อน การรับน้ำหนักมากเกินไป หรือมีการต่อเติมโดยไม่เสริมเสาเข็มรองรับอย่างถูกต้อง

ก่อนตัดสินใจเรียกช่างหรือวิศวกรเข้าตรวจสอบ เจ้าของบ้านสามารถตรวจเช็กเบื้องต้นได้เองแบบง่าย ๆ เพื่อประเมินระดับความรุนแรง และรู้ว่าควรแก้ไขด่วนหรือยังไม่จำเป็นเร่งด่วน

🏠 5 อาการหลักที่บ่งบอกว่าบ้านกำลังทรุด

1) พื้นบ้านยุบตัวหรือเอียงไม่เท่ากัน

• เดินแล้วรู้สึกพื้นเด้งหรือยุบเป็นคลื่น

• วางลูกแก้วแล้วกลิ้งเองโดยไม่กดแรง

• อุปกรณ์วางของ เช่น ตู้ โต๊ะ มีอาการเอียง

หากพื้นทรุดตัวต่อเนื่อง อาจเป็นเพราะฐานรากเสียแรงรับน้ำหนัก ควรประเมินโดยผู้เชี่ยวชาญทันที

2) ผนังแตกร้าวแบบทะแยง / ร้าวลึก

• รอยแตกแนวทแยงมุมจากประตู–หน้าต่าง

• แตกจากเพดานลงผนังเป็นเส้นฉีก

• รอยแตกกว้างกว่า 1–2 มิลลิเมตร

รอยแตกแนวเฉียงมักเกิดจากโครงสร้างเคลื่อน ไม่ใช่แค่การฉาบปูนหลุด

3) ประตู–หน้าต่างปิดไม่สนิท

• ต้องออกแรงดันเพื่อเปิด–ปิด

• มีช่องว่างระหว่างบานกับวงกบ

• กลอนล็อกไม่ตรงระดับเดิม

หากเกิดร่วมกับพื้นเอียง เป็นสัญญาณชัดเจนว่าบ้านกำลังทรุดด้านใดด้านหนึ่ง

4) เสาหรือบัวแยกออกจากผนัง

สังเกตว่ามีร่องระหว่าง

• เสากับผนัง

• ขอบพื้นกับผนัง

• ขอบบัวกับเพดาน

เกิดจากการเคลื่อนตัวของโครงสร้าง ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้

5) ระดับพื้นนอกบ้าน–ในบ้านต่างกันผิดปกติ

โดยเฉพาะบริเวณ

• ครัวต่อเติม

• โรงรถ

• พื้นรอบบ้าน

มักเกิดจากการต่อเติมที่ไม่ได้ทำเสาเข็มรองรับน้ำหนัก หรือดินทรุดตัวจากน้ำใต้ดิน

📏 วิธีประเมินเบื้องต้นง่าย ๆ ด้วยตัวเอง

🧠 เมื่อไรควรเรียกช่างหรือวิศวกรเข้าตรวจหน้างาน

🎯 สรุป

การตรวจอาการบ้านทรุดไม่จำเป็นต้องรอจนปัญหาหนักเสมอไป หากพบสัญญาณเตือนตั้งแต่เนิ่น ๆ สามารถช่วยลดงบประมาณในการซ่อมแซมหลักแสนลงเหลือเพียงครึ่งเดียว การเรียกผู้เชี่ยวชาญประเมินหน้างานคือวิธีที่ปลอดภัยที่สุด และการเลือกใช้ เสาเข็มไมโครไพล์ ถือเป็นทางเลือกมาตรฐานสำหรับแก้ไขบ้านทรุดในปัจจุบันอย่างมีประสิทธิภาพ